นายกฤษณ์พีรัช คมสุรศิษฐ์ รองผู้อำนวยการ สทบ. ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ เรื่อง “ภารกิจของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ในการสร้างและกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากของประเทศผ่านนโยบายกองทุนหมู่บ้าน”

1 พ.ย. 2566 จำนวนคนดู : 311
Share :

นายกฤษณ์พีรัช คมสุรศิษฐ์ รองผู้อำนวยการ สทบ. ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ เรื่อง “ภารกิจของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ในการสร้างและกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากของประเทศผ่านนโยบายกองทุนหมู่บ้าน”

นายกฤษณ์พีรัช คมสุรศิษฐ์ รองผู้อำนวยการ สทบ. ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ เรื่อง “ภารกิจของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ในการสร้างและกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากของประเทศผ่านนโยบายกองทุนหมู่บ้าน” ในโครงการฝึกอบรมความรู้ทางกฎหมายและการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาท เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพ ในการปฏิบัติงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และผู้นำชุมชนในระดับท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ เมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๖ นายกฤษณ์พีรัช คมสุรศิษฐ์ ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายในการฝึกอบรม “โครงการฝึกอบรมความรู้ทางกฎหมายและการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาท เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพ ในการปฏิบัติงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองและผู้นำชุมชนในระดับท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖” โดยมีผู้เข้าร่วมการฝึกอบรม จำนวนทั้งสิ้น ๑๕๐ คน ณ หอประชุมสหกรณ์การเกษตรมโนรมย์ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท


นายกฤษณ์พีรัช คมสุรศิษฐ์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจนและหนี้สินภาคประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และเพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยบริหารผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ไปยังกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในการเป็นกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่ฐานราก ตามแนวคิดการดำเนินการอย่างบูรณาการของทุกภาคส่วนในสังคม ในรูปแบบประชารัฐ ที่จะมีการประสานความร่วมมือของภาคประชาชน ภาคราชการ และภาคเอกชน ในทุกมิติตั้งแต่ระดับหมู่บ้านและชุมชน สำนักงานอัยการสูงสุด โดยสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน จึงได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ในการทำงานอย่างบูรณาการเพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน โดยทั้งสองหน่วยงานได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๔ ซึ่งสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด พบว่าปัจจัยสำคัญในการที่จะยกระดับการบริหารกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีประสิทธิภาพ และการจะรักษาผลประโยชน์ของรัฐ ในด้านงบประมาณแผ่นดิน ในเงินที่รัฐบาลจัดสรรเพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากผ่านกลไกการบริหารของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง คือ การสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายและการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและทางคดีความกระบวนการทำสัญญาและหนังสือต่าง ๆ เพื่อเป็นหลักฐานและดำเนินการติดตามหนี้สิน ที่ให้สมาชิกกองทุนกู้ยืมกลับคืนมาได้ รวมทั้งส่งเสริมการนำกระบวนการยุติธรรมทางเลือก โดยการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทเพื่อจะได้ไม่ต้องมีการฟ้องร้องนำคดีขึ้นสู่ศาล ตลอดจนสร้างความรู้ในกระบวนการบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่มีประสิทธิภาพ โดยโครงการนี้ เกิดจากการบูรณาการร่วมกับสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชัยนาท สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นไปตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทั้งสองหน่วยงาน โดยจัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม ประกอบไปด้วย คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ได้ทราบและเข้าใจกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อฟื้นฟูและยกระดับ

การดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง อันเป็นการพัฒนากิจการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง อันเป็นฐานรากด้านเศรษฐกิจของประเทศได้พัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป

ประกาศสำนักงาน สทบ
ย้อนกลับ